สำรวจรายได้และคะแนนวิจารณ์ของหนัง (นอก) กระแสจากค่าย A24

แฟนหนังนอกกระแสอาจจะต้องเคยคุ้นเคยหรือผ่านตากับโลโก้ A24 ที่ใช้ตัวอักษรใหญ่เต็มตา หนังดัง ๆ ของค่ายนี้ก็มีทั้งเรื่อง The Lobster, Uncut Gems, Moonlight, Lady Bird, Midsommar และล่าสุดที่ประเทศไทยได้ฉายหนังเรื่อง Past Lives ที่ทำให้ตอกย้ำว่าค่าย A24 อยู่ในความสนใจของผู้ชมหนังเยอะแค่ไหน

จุดเริ่มต้นของค่ายนี้มาจากเหล่าผู้ก่อตั้งที่ชื่นชอบหนังและอยากมีสตูดิโอที่มีหนังที่ชูพล็อตแปลกใหม่ผสานการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ โดยค่าย A24 มีบทบาทเป็นทั้งค่ายที่จัดหาซื้อลิขสิทธิ์และผลิตหนังเอง การคัดเลือกหนังของค่ายนี้จึงมีความเฉพาะตัวในแบบที่หนักแน่น ชัดเจน และแปลกใหม่ ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ดูหนังของค่ายนี้หลาย ๆ เรื่อง และก็พบว่าหนังที่ชื่นชอบเป็นพิเศษหลายเรื่องก็เป็นหนังของค่ายนี้

แต่ถ้าจะให้แนะนำว่าควรดูเรื่องไหนดี ซึ่งเป็นอะไรที่แนะนำยากเพราะความเฉพาะตัวของพล็อตเรื่องของค่ายนี้มีความหลากหลายมาก ดังนั้นเราจะช่วยให้ข้อมูลนำทางการตัดสินใจกันดีกว่า

เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ -

A24 จุดเริ่มต้นจากผู้จัดจำหน่าย สู่บทบาทของผู้ผลิตที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกอย่างไม่แตกแถว

ในปี 2012 คือจุดเริ่มต้นการก่อตั้งบริษัทและมีหนังออกฉายครั้งแรกในปี 2013 เรื่อง A Glimpse Inside the Mind of Charles Swan III ซึ่งเป็นการซื้อลิขสิทธิ์หนังเพื่อเอามาฉาย โดยการเปิดตัวหนังเรื่องแรกนั้นได้ผลตอบรับทั้งคะแนนวิจารณ์และรายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

แต่ในปีเดียวกันนี้ก็ยังมีหนังอีก 2 เรื่องที่ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี เรื่องแรก Ginger & Rosa หนังแนว Coming of Age ที่สองวัยรุ่นม.ปลาย ขึ้นมาต่อต้านสงครามนิวเคลียร์ เป็นหนังที่ได้รับคะแนน 78% จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes เรื่องต่อมา Spring Breakers หนังดราม่า แก๊งวัยรุ่นเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรม ปล้นเพื่อหาเงินไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นหนังที่ทำรายได้และมีกำไรมากที่สุดในปี 2013 สร้างรายได้ $31,700,000 จากเงินลงทุน $5,000,000

ในช่วงระยะเวลาสามปีที่ก่อตั้งสตูดิโอในฐานะของผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อจัดจำหน่ายมีหลาย ๆ เรื่องที่ได้คะแนนวิจารณ์สูงอย่างเช่นเรื่อง Ex Machina (2014), The Witch (2015), The Lobster (2015) แล้วยังสามารถสร้างรายได้ค่อนข้างสูงได้ จึงอาจจะเป็นการเลือกหนังถูกทางของค่าย A24 ซึ่งเปิดโอกาสในการทำหนังในแนวทางของค่ายมากขึ้น

ในปี 2016 จึงประเดิมด้วยการเป็นผู้ร่วมลงทุนกับหนังเรื่องแรกที่ได้กำไรสูงมากจากเรื่อง Moonlight (2016) ที่ได้รับคะแนนวิจารณ์ 99% จากเว็บไซต์ Metacritic และ 98% จากเว็บไซต์ Rotten Tomato ท้ายที่สุดเรื่องนี้ยังได้รางวัล The Best Picture ใน Oscar ด้วย

หนังของค่าย A24 ได้รับการตอบรับจากผู้ชมและเว็บไซต์วิจารณ์หนังทั้ง 3 เว็บไซต์ดังคือ IMDB, Rotten Tomato และ Metacritic ดีมาโดยตลอด ทั้งหนังที่ผลิตจากค่ายเองหรือซื้อลิขสิทธิ์มาโดยภาพรวมในแต่ละปีจะมีหนังหลาย ๆ เรื่องที่ได้คะแนนวิจารณ์เกินครึ่ง

ในปี 2015-2022 ได้คะแนนเฉลี่ยจากทั้งหนังที่ผลิตเองและซื้อลิขสิทธิ์เกิน 75% แต่ก็มีข้อสังเกตว่าหนังที่ออกฉายปี 2023 ยังไม่ได้รวบรวมคะแนนมาหมดเพราะหนังบางเรื่องก็ยังไม่ถึงคิวออกฉาย ต้องรอสิ้นปีว่าในปีนี้หนังของค่าย A24 ยังจะได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ 75% หรือไม่

หนังจากค่าย A24 หลายเรื่องใช้ต้นทุนต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลจาก List of a24 films ที่จัดการลบข้อมูลซ้ำและไม่เกี่ยวข้องกับหนังที่ค่าย A24 ออกพบว่ามีอยู่ 150 เรื่องที่ออกฉายปี 2013-2023 ในช่วงสามปีแรกเป็นการซื้อหนังเพื่อจัดจำหน่าย ในปี 2016 เป็นปีแรกที่ A24 เปิดตัวหนังที่ร่วมผลิตด้วย

หลังจากปี 2016 ก็มีหนังที่ A24 ร่วมผลิตด้วยควบคู่ไปกับการจัดซื้อหนัง ซึ่งการเป็นผู้ผลิตหนังนั้นต้องอาศัยการค้นพบพล็อตและเจอผู้กำกับที่มีแนวทางการทำงานตรงกับค่าย จึงไม่มีจำนวนที่แน่นอนของการทำหนัง บางปีอาจมีหนังของตัวเองเรื่องเดียว บางปีอาจมีมากกว่านั้นก็เป็นไปได้ ดังนั้นค่ายก็ยังคงต้องทำหนังควบคู่ไปกับการซื้อลิขสิทธิ์หนังไปด้วยกัน

ในด้านของต้นทุน การผลิตหนังเองมักมีต้นทุนที่แพงกว่าโดยเปรียบเทียบกับหนังที่จัดซื้อมาเพื่อจำหน่าย ในเรื่อง White Noise (2022) ที่ออกฉายทาง Netflix ใช้ต้นทุน $100,000,000 ได้รายได้กลับมา $34,818 สำหรับเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังต้นทุนการผลิตสูง ผลตอบแทนต่ำที่สุดในบรรดาของหนังทุกเรื่องที่ A24 ผลิตเอง (ณ วันที่เตรียมข้อมูล A24 ยังอยู่ในรายชื่อที่ A24 เป็นผู้ร่วมผลิตแต่ปัจจุบันเป็นลิขสิทธิ์ของ Netflix ความเห็นของผู้ชมจึงเป็นไปในทิศทางที่ไม่จัดให้หนังเรื่องนี้อยู่ในหนังของ A24)

ท้ายสุดของเรื่อง White Noise (2022) นอกจากไม่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้แล้วยังได้รับคำวิจารณ์ว่าแปลกเกินไปจึงได้คะแนนสูงสุดจาก IMDB ที่ 5.5 และแน่นอนว่า A24 รอดจากการขาดทุนของหนังเรื่องนี้ได้

จะเห็นได้เลยว่าหนังของค่ายนี้ใช้ต้นทุนต่ำมาก โดยในหลาย ๆ เรื่องใช้ต้นทุนต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาดูกันที่หนังดีต้นทุนต่ำที่สุดต้องมอบให้กับ 3 เรื่องนี้คือ

  • Into the Forest (2015) ที่ใช้งบสร้างหนังที่ $10,000 ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงสุดที่ 76%
  • Krisha (2015) งบสร้าง $30,000 ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงสุดที่ 95%
  • A Ghost Story (2017) ที่ใช้งบสร้างหนัง $100,000 ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงสุดที่ 91%

แต่ทั้งสามเรื่องนี้ทางค่ายไม่ได้ผลิตเอง ค่าย A24 มีบทบาทเป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์เพื่อจำหน่าย

มาดูในส่วนที่ค่าย A24 ผลิตเองกันบ้าง ซึ่งหนังส่วนใหญ่ก็ยังผลิตด้วยเงินทุนที่ไม่สูงนัก หนังที่ใช้ต้นทุนต่ำสุดยกให้เรื่อง Moonlight (2016) ที่ใช้เงินสร้างหนัง $1,500,000 ได้รายได้จากการฉาย $63,800,000 ซึ่งเป็นหนังที่ได้กำไร 43 เท่าของต้นทุน ถือว่าเป็นสัดส่วนกำไรมากที่สุดของค่าย โดยภาพรวมหนังหลาย ๆ เรื่องของค่ายนี้ก็ไม่ได้ใช้เงินผลิตมากเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันก็ใช้เงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ไม่แพงอีกด้วย

ค่ายหนัง A24 ค่ายที่ทำกำไรมากกว่าขาดทุน

ด้วยความที่ค่าย A24 สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี หนังหลาย ๆ เรื่องก็ยังทำรายได้ Box Office ได้มาก ทำให้เราเห็นว่าค่าย A24 มีสัดส่วนกำไรที่สูง ในปี 2016 ประเดิมด้วยการเป็นผู้ผลิตเรื่องแรกก็ได้กำไรสูงที่สุดจากเรื่อง Moonlight (2016) นอกจากนี้ยังมีหนังอีกหลาย ๆ เรื่องที่ได้กำไรสูงเกิน 10 เท่าเช่น X (2022) และ A Ghost Story (2017)

และหนังต่อไปนี้ก็ได้กำไรเกิน 5 เท่า Everything Everywhere All at Once (2022), Hereditary (2018), Lady Bird (2017), The Witch (2015), Amy (2015), The Farewell (2019), It Comes at Night (2017), Minari (2020), Eighth Grade (2018) และ Pearl (2022) และยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องสามาดูต่อไปที่ตารางข้างต้น

ซึ่งในด้านรายได้ที่ประสบความสำเร็จสามารถพิจารณาที่รายได้เกิน 2.5 เท่าของต้นทุน นั่นแปลว่าขณะนี้มีหนังกว่า 7 ใน 10 ที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จในด้านรายได้อย่างมาก อีกทั้งหนังที่ขาดทุนของค่ายนี้ก็ไม่มีเรื่องไหนเลยที่ขาดทุนเกินหนึ่งเท่าของต้นทุน

ถึงแม้หนังค่าย A24 บางเรื่องจะขาดทุนแต่ก็ยังได้คะแนนวิจารณ์ที่ดี

บางทีหนังดีไม่ได้การันตีรายได้เสมอไป ในค่าย A24 มีหนังดีหลายเรื่องที่ไม่ค่อยทำกำไร และก็มีหลายเรื่องที่ถึงขาดทุน แต่ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ คะแนนวิจารณ์ก็ไม่ได้แย่ไปด้วย เช่น เรื่อง After Yang (2021), Mississippi Grind (2015), The Inspection (2022), Lean on Pete (2017) ก็เป็นเรื่องที่ขาดทุนแต่คะแนนสูงสุดที่ได้จากเว็บไซต์วิจารณ์ก็มีคะแนนแตะ 90%

ในบรรดาหนังที่ขาดทุนเช่นเรื่อง After Yang (2021) และ The Inspection (2022) เป็นสองเรื่องที่ค่าย A24 เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเอง การตัดสินหนังจากกำไรอาจทำให้เราพลาดกับหนังที่น่าสนใจไปได้

สำหรับผู้เขียนเองชอบเรื่อง After Yang หนังที่ค่ายสร้างเองแล้วขาดทุน เนื่องด้วยในตอนที่เลือกดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้เห็นตัวเลขขาดทุน แต่เพราะชื่อเรื่องที่น่าจะเชื่อมโยงกับความเป็นเอเชียจึงตัดสินใจดูโดยที่ไม่เปิดอ่านรีวิวก่อนด้วย

ขอเล่าสั้น ๆ ในหนังเรื่อง After Yang หนังขาดทุนแต่ได้คะแนนวิจารณ์ดีอีกเรื่อง เมื่อหุ่นยนต์พี่เลี้ยงได้จากไป ในเรื่องราวของครอบครัวอเมริกันที่รับอุปการะเด็กจีนเข้ามาในครอบครัว เพื่อให้เด็กสาวผู้นี้ปรับตัวได้จึงไปซื้อหุ่นยนต์เพศชายชื่อ หยาง จากร้านขายของมือสองเพื่อให้เป็นพี่ชายชาวจีน แต่แล้วหยาง หุ่นยนต์ในร่างพี่ชายก็พังและจากไป แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือชิ้นส่วนบันทึกความทรงจำ หนังนำไปสู่ข้อถกเถียงในหลาย ๆ ประเด็นทั้งความอคติด้านชาติพันธุ์ การมองรัฐในฐานะตัวร้ายผู้สอดแนม ตลอดจนความยึดถือคุณค่าในความเป็นมนุษย์และการตระหนักรู้ถึงข้อจำกัดของมนุษย์ เป็นอีกเรื่องที่รายได้ไม่ได้การันตีคุณค่าของหนังได้

แนะนำ Playlist หนังค่าย A24 ผ่านข้อมูลสถิติ

เมื่อเราได้ลองทำความรู้จักกับหนังในค่าย A24 ไปพอสมควรแล้ว ก็ทำให้รู้จักกับหนังดีหลาย ๆ เรื่องที่ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนการผลิตสูง ด้วยความที่หนังของค่ายนี้มีพล็อตเรื่องที่หลากหลายแนว ถ้าผู้อ่านอยากลองมีดูหนังของค่ายนี้ เรามีหลายเรื่องที่อยากให้ลองดู และเพื่อความง่ายในการแนะนำเราขอใช้เกณฑ์ในการจัด Playlist ตามรูปแบบดังนี้

3 หนังคะแนนวิจารณ์ดีและต้นทุนต่ำ จากค่าย A24

หนังที่คัดมาทั้งสามเรื่องนี้คือหนังที่ใช้เงินทุนต่ำที่สุด และได้คะแนนรีวิวสูงที่สุดคือไม่ต่ำกว่า 90% ซึ่งทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังที่ทางค่าย A24 ซื้อลิขสิทธิ์มา ได้แก่

  1. Into the Forest (2015)
    เรื่องย่อ: เมื่อไฟฟ้าทั้งโลกดับลงจะใช้ชีวิตได้อย่างไร เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดของครอบครัวหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตในบ้านกลางป่า การที่ไม่มีไฟฟ้าทำให้ขาดแคลนทั้งของที่จำเป็นในชีวิตและความสัมพันธ์ก็ดูยุ่งยากขึ้น สำหรับผู้เขียนเองคิดว่าเรื่องนี้คล้ายกับหนังญี่ปุ่นเรื่อง Survival Family (2017) ที่ไม่ใช่หนังของ A24 แต่ถ้าใครที่เคยดูเรื่องนี้ก็น่าจะชอบเรื่อง Into the Forest เช่นกัน
  2. Krisha (2015)
    เรื่องย่อ: หนังแนวดราม่า ตัวเอกคือ Krisha หญิงที่ออกไปจากครอบครัวนานนับสิบปี เธอกลับมาในวันขอบคุณพระเจ้าเพื่อชดเชยเวลาที่หายไปกับลูก ๆ และครอบครัวอีกครั้ง แต่มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้รับการยอมรับ
  3. A Ghost Story (2017)
    เรื่องย่อ: สามี-ภรรยาคู่หนึ่งตัดสินใจแยกทางกัน สามีออกจากบ้านเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่ภรรยายังอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อกับวิญญาณสามีที่ตายไป แต่นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญ ไม่มีฉากตุ้งแช่ เป็นหนังที่ถ่ายทอดความทรงจำของผีสามี

3 หนังคะแนนวิจารณ์ดีที่ค่าย A24 เป็นผู้ผลิตเอง

หนังที่คัดมาทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังที่ทางค่าย A24 ผลิตเอง ซึ่งได้คะแนนรีวิวไม่น้อยกว่า 74% จากเว็บไซต์ทั้งสามวิจารณ์หนัง ได้แก่

  1. Moonlight (2016)
    เรื่องย่อ: หนัง Coming of Age ของชายที่ต้องข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในแต่ละช่วงชีวิต ดำเนินเรื่องด้วยชายผิวสีกับ 3 ช่วงวัยที่ต้องผ่านอุปสรรคทั้งการถูกรังแก การเหยียดชนชั้น, สีผิว และ เพศสภาพ
  2. Eighth Grade (2018)
    เรื่องย่อ: หนัง Coming of Age อีกเรื่องที่เล่าเรื่องโดยเด็กสาวชั้นม.2 ที่เป็นยูทูปเบอร์สอนแต่งหน้า แต่ในอีกด้านก็เป็นคนที่ไม่ได้เข้ากับสังคมเพื่อนได้ง่ายเหมือนในภาพของโลกออนไลน์ ชีวิตในโรงเรียนจึงถูกมองข้ามจากเพื่อน ๆ เสมอ สุดท้ายแล้วเด็กสาวผู้นี้ต้องค้นหาวิธีการทำความเข้าใจกับตนเอง
  3. The Eternal Daughter (2022)
    เรื่องย่อ: หนังกึ่งชีวประวัติของผู้กำกับและแม่ของเธอ ที่เรื่องราวเกิดเมื่อวันครบรอบวันเกิดของแม่ เธอจึงพาแม่ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่เคยเป็นบ้านเก่าเพื่อหวังว่าให้แม่ได้กลับไปมีความสุขกับวันวานอีกครั้งแต่ความทรงจำกลับสร้างความเจ็บปวดให้แม่เธอซะมากกว่า บรรยากาศในหนังให้ความรู้สึกลึกลับ ไม่น่าไว้ใจ และทำให้ผู้ชมสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอและแม่

3 หนังคะแนนวิจารณ์ดีที่ค่าย A24 เป็นผู้ซื้อมาเพื่อจัดจำหน่าย ไม่ได้ผลิตเอง

หนังที่คัดมาทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังที่ทางค่ายซื้อลิขลิทธิ์มา เหล่านี้ได้คะแนนรีวิวที่สูงเพราะไม่มีเรื่องไหนเลยที่ได้คะแนนต่ำกว่า 74% จากทั้งสามเว็บไซต์วิจารณ์หนัง ได้แก่

  1. Lady Bird (2017)
    เรื่องย่อ: หนังแนว Coming of Age ของเด็กหญิงที่เรียกแทนตัวเองว่า Lady Bird ชีวิตในวัยมัธยมก็คือคนปกติทั่ว ๆ ไปที่เผชิญกับความคิดของการไม่ชอบครอบครัว ไม่ชอบโรงเรียน รวมถึงการอยากหลีกหนีจากสิ่งที่เป็นอยู่รอบ ๆ ตัว อยากพาตัวเองไปที่อื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอได้ตกผลึกกับตนเองและความคิดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตของของคนทั่ว ๆ ไป
  2. Marcel the Shell with Shoes On (2021)
    เรื่องย่อ: หนัง Stop Motion Animation ที่นำเสนอชีวิตประจำวันของหอยทาก เป็นหนังน่ารักที่ชวนเราไปสำรวจโลกของหอยทากตัวจิ๋วที่ต้องระมัดระวังอันตรายจากสิ่งของใหญ่ ๆ ในบ้าน ซึ่งจะมีหอยทากอาวุโสคือคุณย่าคอยสอนการใช้ชีวิต ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นแวดล้อมของบ้านอีกมุมหนึ่งที่มนุษย์ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
  3. Minari (2020)
    เรื่องย่อ: หนังดราม่าครอบครัวอเมริกัน-เกาหลี ครอบครัวลีอพยพมาใช้ชีวิตในอเมริกา ใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ดีตามแบบของคนอเมริกัน การย้ายเข้ามานานจนลูก ๆ กลมกลืนไปกับวัฒนธรรมของประเทศใหม่ไปแล้ว สิ่งที่หลงเหลือความเป็นชาวเกาหลีจึงมีแค่ภาษา วันหนึ่งย่าชาวเกาหลีเดินทางมาหาพร้อมของฝากจากเกาหลี และยังพาวิถีของคนเกาหลีทั้งคำพูด การกิน การเล่นที่เด็ก ๆ ไม่คุ้นเคยและรู้สึกต่อต้าน แต่ผู้เป็นพ่อแม่กลับรู้สึกอิ่มเอิบกับสิ่งเหล่านั้น

3 หนังที่มีรายได้สูงที่สุดของค่าย A24

หนังของค่าย A24 ที่คัดมาทั้งสามเรื่องนี้จัดเป็นหนังที่ได้รายได้จาก Box Office สูงที่สุด ซึ่งเรื่อง Hereditary (2018) เป็นหนังที่ทางค่ายผลิตเอง ส่วนอีกสองเรื่องเป็นหนังที่ซื้อลิขสิทธิ์มา ทั้งสามเรื่องนี้มีรายได้หลักประมาณเกือบร้อยล้านคอลลาร์สหรัฐ ได้แก่

  1. Everything Everywhere All at Once (2022)
    เรื่องย่อ: หนังที่ไม่รู้จะจัดอยู่ในหมวดไหนเพราะมีทั้งดราม่า ตลก บู๊ โรแรมติก เริ่มเรื่องจากหญิงวัยกลางคนที่เผชิญปัญหารอบด้าน แต่อยู่ ๆ ก็มีคนพาเธอไปยังโลกคู่ขนานที่ต้องทำภารกิจเพี้ยนหลุดโลกเพื่อรักษาจักรวาลในโลกคู่ขนานนั้นไว้
  2. Hereditary (2018)
    เรื่องย่อ: หนังสยองขวัญ เริ่มจากแม่ของแอนนี่ตาย จึงเป็นจุดเรื่องราวความน่าสยองขวัญในครอบครัวนี้ เรื่องราวที่ไม่ปกติที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวนี้ประสาทเสีย และลำพังความรู้สึกกลัวที่ยากที่จะข้ามผ่านก็ยังคงต้องคอยประคับประคอบจิตใจคนในครอบครัวด้วย
  3. Lady Bird (2017)
    เรื่องย่อ: หนังแนว Coming of Age ของเด็กหญิงที่เรียกแทนตัวเองว่า Lady Bird ชีวิตในวัยมัธยมก็คือคนปกติทั่ว ๆ ไปที่เผชิญกับความคิดของการไม่ชอบครอบครัว ไม่ชอบโรงเรียน รวมถึงการอยากหลีกหนีจากสิ่งที่เป็นอยู่รอบ ๆ ตัว อยากพาตัวเองไปที่อื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอได้ตกผลึกกับตนเองและความคิดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตของของคนทั่ว ๆ ไป

3 หนังที่มีกำไรมากที่สุดของค่าย A24

หนังที่คัดมาทั้งสามเรื่องถือว่าเป็นหนังที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จทางรายได้เป็นอย่างมากในวงการหนัง ซึ่งเรื่อง Moonlight (2016) เป็นหนังที่ผลิตขึ้นจากค่ายเอง ซึ่งทั้งสามเรื่องนี้ได้ กำไรตั้งแต่ 19 เท่า ถึง 43 เท่า ได้แก่

  1. Moonlight (2016)
    เรื่องย่อ: หนัง Coming of Age ของชายที่ต้องข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในแต่ละช่วงชีวิต ดำเนินเรื่องด้วยชายผิวสีกับ 3 ช่วงวัยที่ต้องผ่านอุปสรรคทั้งการถูกรังแก การเหยียดชนชั้น, สีผิว และ เพศสภาพ
  2. A Ghost Story (2017)
    เรื่องย่อ: สามี-ภรรยาคู่หนึ่งตัดสินใจแยกทางกัน สามีออกจากบ้านเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่ภรรยายังอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อกับวิญญาณสามีที่ตายไป แต่นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญ ไม่มีฉากตุ้งแช่ เป็นหนังที่ถ่ายทอดความทรงจำของผีสามี
  3. X (2022)
    เรื่องย่อ: หนังสยองขวัญ เริ่มจากทีมงานหนังโป๊ต้องการหาสถานที่ถ่ายทำ จึงไปเจอกับบ้านเช่ากลางทุ่งหลังหนึ่ง แต่โชคร้ายที่ผู้ให้เช่ากลับเป็นพวกโรคจิตที่จะมาไล่ฆ่า เหล่าทีมงานจึงต้องหนีเอาตัวรอด

3 หนังที่ขาดทุนมากที่สุดของค่าย A24

แต่ก็มีบ้างที่ค่ายหนังต้องขาดทุน ซึ่งหนังทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังของค่าย A24 ที่ขาดทุนมากที่สุด (ไม่นับรวมเรื่อง White Noise) แต่ถึงอย่างนั้นก็ขาดทุนไม่เกิน 1 เท่าของต้นทุน ได้แก่

  1. The Sea of Trees (2015)
    เรื่องย่อ: หนังดราม่า เป็นเรื่องราวของป่าฆ่าตัวตาย (Aokigahara) ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีชายสองคนเดินทางไปที่แห่งนั้นด้วยชนวนเหตุของการทะเลาะกันในครอบครัว แต่แล้วในที่สุดทั้งสองคนต้องช่วยกันหาทางออกจากป่า
  2. Barely Lethal (2015)
    เรื่องย่อ: หนังตลก โรงเรียนสอนวิชาสายลับหญิง ที่มีกฎห้ามไปรู้จักกับโลกภายนอก ให้อคติกับความสัมพันธ์เข้าไว้ แต่เด็ก ๆ ก็เป็นวัยรุ่นที่อยากลองออกไปค้นพบโลกข้างนอก
  3. After Yang (2021)
    เรื่องย่อ: หนังดราม่า เมื่อหุ่นยนต์พี่เลี้ยงได้จากไป ในเรื่องราวของครอบครัวอเมริกันที่รับอุปการะเด็กจีนเข้ามาในครอบครัว เพื่อให้เด็กสาวผู้นี้ปรับตัวได้จึงไปซื้อหุ่นยนต์เพศชายชื่อ หยาง จากร้านขายของมือสองเพื่อให้เป็นพี่ชายชาวจีน แต่แล้วหยาง หุ่นยนต์ในร่างพี่ชายก็พังและจากไป

3 หนังที่คะแนนวิจารณ์ต่ำ (แล้วไม่ดีจริงหรอ ? ไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง)

โดยส่วนใหญ่แล้วหนังของค่ายนี้มักได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี เพียงมีโลโก้ A24 ขึ้นก็มักทำให้ผู้ชมคาดหวังไว้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีบ้างที่หนังไม่ถูกใจคนดู ซึ่งทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังที่ค่ายซื้อลิขสิทธิ์มาฉายและได้คะแนนรีวิวต่ำจากทั้งสามเว็บไซต์วิจารณ์หนัง บางเว็บไซต์ยังรีวิวให้หนังเหล่านี้ได้คะแนนไม่ถึง 20% ถ้าอยากลองพิสูจน์ดูว่าหนังไม่ดีจริงหรอก็ไปดูสามเรื่องนี้เลย ได้แก่

  1. Woodshock (2017)
    เรื่องย่อ: หนังสยองขวัญ เป็นเรื่องของหญิงสาวที่พยายามช่วยแม่ที่ป่วยหนัก แต่ช่วยไม่สำเร็จเพราะแม่ฆ่าตัวตายไปเสียก่อนทำให้ปมนี้ติดอยู่ในใจของหญิงสาวผู้นี้จนสภาพจิตย่ำแย่ ซ้ำร้ายยังมีเหตุการณ์ต่อเนื่องให้เธอรู้สึกผิดเข้าไปอีก
  2. A Glimpse Inside the Mind of Charles Swan III (2013)
    เรื่องย่อ: หนังตลกของชายที่เพียบพร้อมในชีวิต แต่พังทลายเพราะความรัก เพื่อน ๆ ของเขาจึงช่วยให้เขาได้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง
  3. Mojave (2015)
    เรื่องย่อ: หนังระทึกขวัญ เรื่องราวของผู้กำกับเขียนบทที่อยากปลีกวิเวกแล้วเดินทางไปทะเลทรายและพบกับคนเร่ร่อนที่พยายามจะมาฆ่าเขา เขาจึงชิงลงมือก่อนแต่คนที่ตายกลับเป็นตำรวจสายตรวจ เรื่องราวจึงดำเนินไปด้วยการปกปิด การโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม

ดูหนังทั้งหมดของค่ายต้องใช้เวลานานแค่ไหน ?

ถ้าอยากดูหนังทั้งหมดของค่าย A24 ต้องใช้ระยะเวลา 249 ชั่วโมงกว่าจะดูครบ 150 เรื่อง หรือต้องเตรียมวันว่าง 11 วันแบบห้ามพักกันเลย ซึ่งสมมติถ้าจะดูหนังตั้งแต่ปี 2017 จะต้องใช้เวลานานที่สุดคือ 37 ชั่วโมงเพื่อจะดูครบทุกเรื่อง

แต่หนังในปี 2017 ก็มีที่น่าสนใจดัง ๆ หลายเรื่องที่คุ้มค่าต่อการใช้เวลาเช่น Lady Bird, The Florida Project หนังสยองขวัญต้นทุนต่ำ, A Ghost Story ก็เป็นหนังของปีนี้เช่นกัน และยังมีเรื่อง Lean on Pete ที่แม้จะขาดทุนและชื่อไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นหนังดีอีกเรื่องที่น่าลองไปดู เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของเด็กหนุ่มกับม้า การออกเดินทางครั้งนี้เพื่อให้ม้าคู่หูของเขาได้มีชีวิตต่อไป ยังมีหนังอีกหลาย ๆ เรื่องที่พล็อตน่าสนใจถ้าผู้อ่านอยากทำความรู้จักกับหนังค่าย A24 อย่างเต็มตัวก็ได้เวลาเตรียมร่างกายและจัดเวลาไปดูหนังกัน

แหล่งอ้างอิง

ข้อมูลรายชื่อหนังจาก https://www.kaggle.com/datasets/sebastiansuliborski/a24-studio-movies-dataset

รวบรวมข้อมูล Score Rating จาก https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_A24_films

อยากมาทำงานสาย Data ใช่มั้ย?

เรามี Workshop Data Interview ที่จะช่วยคุณเตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน ผ่านการทำ Case Interview