[Workshop] สร้างระบบตรวจสลิปปลอมฟรีแบบอัติโนมัติด้วย Activepieces และ SlipOK

บทความนี้เป็นบทความประกอบ Video สร้างระบบตรวจสลิปปลอมฟรีแบบอัติโนมัติด้วย Activepieces และ SlipOK

Activepieces คือเครื่องมือทำ Automation แบบ No-Code สามารถสร้างระบบอัติโนมัติของตัวเองเพื่อลดงานซ้ำซ้อนที่ทำซ้ำ ๆ แล้วอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย โดยมีจุดเด่นที่โปรแกรมเป็น Open Source ใช้งานได้ฟรี และรองรับการเชื่อมต่อกับ Gen AI อย่าง ChatGPT, Claude และอื่น ๆ ดูวีดีโอแนะนำ Activepieces ได้ที่นี่

ภาพรวม / Project Overview

แนะนำภาพรวมของ Project สร้างระบบตรวจสลิปปลอมฟรีแบบอัติโนมัติด้วย Activepieces โดย Project นี้จะใช้ SlipOK API ที่เริ่มใช้งานได้ฟรี มาช่วยตรวจสลิปโอนเงินแบบอัติโนมัติ

ปัญหาและความต้องการ

แผนกขายคอร์สออนไลน์ ใช้ Google Form ในการให้ลูกค้าอัปโหลดหลักฐานการชำระเงิน เพื่อยืนยันการเข้าเรียน

• ผู้ใช้งานจะสามารถอัปโหลดสลิป (หลักฐานการชำระเงิน) ผ่าน Google Form
• เมื่อมีสลิปเข้ามาใน Google Form แล้ว พนักงานจะนำภาพสลิปนั้นไปตรวจสอบความถูกต้องด้วยการสแกนสลิปนั้นกับแอปพลิเคชั่นของธนาคารทีละอัน ๆ
• เมื่อตรวจสอบหลักฐานแล้ว พนักงานจะบันทึกผลลงใน Google Sheet เพื่อยืนยันการชำระเงินต่อไป

เป้าหมายของ Project

ในการทำ Automation อาจจะมี Solution ที่ดีกว่า แต่ที่ Workshop เลือกทำแบบนี้เพราะนอกจากแก้ปัญหาเดิมแล้ว ยังสอดคล้องกับ Workflow เก่า (ไม่ไปปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเดิมของเขา)

แต่หลาย ๆ คนอาจจะพบว่ามีวิธีที่ง่ายกว่า เช่นทำระบบจ่ายเงินแบบตัดบัตรเครดิต ที่ไม่ต้องตรวจสลิปเองเลย

แผนกขายคอร์สออนไลน์ ใช้ Activepieces เพื่อลดงาน และข้อผิดพลาดจากระบบเดิม

• ผู้ใช้งานจะสามารถอัปโหลดสลิป (หลักฐานการชำระเงิน) ผ่าน Google Form
• เมื่อมีสลิปเข้ามาใน Google Form แล้ว ตัว Activepieces จะนำภาพสลิปนั้นไปตรวจสอบความถูกต้องด้วย SlipOK API
• เมื่อตรวจสอบหลักฐานแล้ว Activepieces จะบันทึกผลลงใน Google Sheet เพื่อยืนยันการชำระเงินต่อไป

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

• ลดข้อผิดพลาดจากการตรวจสลิปผิด และการทุจริตของพนักงาน
• ลดเวลาในการตรวจสอบสลิปหลักฐานการชำระเงิน

ค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น / Cost Breakdown

สำหรับการทำ Project นี้เพื่อใช้งานจริง สามารถแบ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ดังนี้

1. SlipOK API

ใน Project นี้เราจะใช้ SlipOK ในการช่วยตรวจสลิปโดย SlipOK คิดค่าบริการเป็นต่อสลิปทุก ๆ สลิป ที่มีการบันทึกและตรวจสอบว่า ตรวจสอบผ่าน และไม่ผ่าน จะถูกนับเพื่อคิดค่าบริการ (กรณีส่งสลิปซ้ำ จะไม่นับค่าบริการ) มีรายละเอียดดังนี้

• ใช้ฟรี 100 สลิปต่อเดือน (สามารถสร้างร้านฟรีได้ 2 ร้าน หากเกินกว่านั้นต้องซื้อแพคเกจ)
• ใช้งาน 500 สลิปต่อเดือน ราคา 210 บาทต่อเดือน
• ใช้งาน 1,000 สลิปต่อเดือน ราคา 360 บาทต่อเดือน

และกรณีที่ใช้มากขึ้น ก็จะคิดเป็นราคาเหมาแบบนี้ โดยส่วนเกินการตรวจสลิปจะจ่ายอยู่ที่ 1 – 0.15 บาท ต่อสลิป

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับราคา และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่นี่ https://slipok.com/our-service/

2. Activepieces

ใน Project นี้เราจะใช้ Activepieces ในการรัน Automation ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแล้วแต่วิธีการติดตั้ง โดยสามารถลองใช้งานได้ฟรี 1,000 tasks ต่อเดือนผ่านการใช้งานแบบ Cloud

• กรณีใช้ Self-host อ่านรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่นี่
• กรณีใช้แบบ Cloud อ่านรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่นี่

แนวคิดการพัฒนา / Task Breakdown

ขั้นตอนในการลงมือทำไล่เป็นขั้นตอนจากง่ายไปยาก โดยหากทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะสามารถเห็นภาพรวมของการพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น

1. เตรียมระบบ
   1. สร้าง Google Form เพื่อเป็นแบบฟอร์มอัปโหลดการชำระเงิน
   2. สร้าง Google Sheet เพื่อบันทึกหลักฐานการชำระเงิน
   3. เปิดให้ไฟล์ภาพหลักฐานการชำระเงินเป็น Public access
   4. เปิดใช้งาน SlipOK API
2. พัฒนา Automation ด้วย Activepieces
   1. สร้าง Trigger เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลใน Google Form
   2. ส่งข้อมูลจากใน Google Form เข้าไปใน SlipOK API ด้วย HTTP Node
   3. ตรวจสอบผลลัพธ์การตรวจสอบ Slip ด้วย Branch Node
   4. บันทึกผลลัพธ์เข้าไปที่ Google Sheet

สิ่งที่ต้องเตรียม / Project Prerequisites

• Activepieces Account
  สมัครเข้าใช้งานที่นี่ https://activepieces.com/
• Google Account
  สำหรับสร้าง Google Form, Google Drive และ Google Sheet
• Bank Account
  บัญชีธนาคารสำรองของตัวเอง เพื่อทดสอบการตรวจสอบสลิป เช่นลองโอนเงินเข้าไป 1 บาท
• SlipOK Account
  สมัครเข้าใช้งาน SlipOK ที่นี่ https://slipok.com/ โดยการใช้งานจะล็อคอินด้วย LINE account

ขั้นตอนการลงมือทำ / How to

1. เงื่อนไขการตรวจสอบสลิป (หลักฐานการโอนเงิน)

ตรวจสอบ สลิป ว่าเป็น สลิป จริงหรือไม่

• สลิปปลอม
  ในที่นี้อาจจะเป็นได้ตั้งแต่รูปแบบไฟล์ไม่ถูกต้อง หรือเป็นไฟล์สลิปที่ปลอมขึ้น โดยระบบจะตรวจสอบสลิปก่อนไปตรวจสอบรายละเอียดในสลิป
• ชื่อบัญชีผู้รับ หรือ เลขที่บัญชีผู้รับ
  ตรวจสอบว่าบัญชีผู้รับ และเลขที่บัญชีในสลิป ตรงกับที่ระบบในระบบหรือไม่ ?
• ตรวจสอบจำนวนเงิน (ส่วนเสริม)
  ตรวจสอบว่ายอดเงินในสลิป ตรงกับที่ระบุไว้มั้ย โดยระบบสามารถตั้งค่ายอดโอนขาด โอนเกินได้ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
• ตรวจสอบว่าเคยมีการบันทึกข้อมูลการชำระเงินรึยัง
  เมื่อเคยตรวจสอบสลิปกับระบบแล้ว แล้วมีการส่งซ้ำ ระบบจะมองว่าเป็นการส่งสลิปซ้ำ หากนำสลิปเก่า (แต่เป็นสลิปที่ถูกต้อง) ที่ไม่เคยตรวจสอบกับระบบเลย ระบบจะมองว่าเป็นสลิปที่ถูกต้อง

ตัวอย่างผลลัพธ์การตรวจสอบ สลิป

ควรต้องทดสอบให้ครบทุกเคส เพื่อตรวจสอบว่าระบบ Activepieces ของเราทำงานถูกต้อง

2. สร้าง Google Form เพื่อเป็นแบบฟอร์มตรวจสลิป

สร้าง Google Form เพื่อใช้เป็นแบบฟอร์มตรวจสลิป โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. Form ชื่อว่า: Approve Slip by Activepieces
2. สร้าง Expectation field เป็น Mutiple choice และ Required field โดยมีตัวเลือกดังนี้
   ✅ Success
   ⛔ สลิปปลอม
   ⛔ บัญชีผู้รับไม่ตรงกับบัญชีหลักของร้าน
   ⛔ ยอดที่ส่งมาไม่ตรงกับยอดสลิป
   ⛔ สลิปซ้ำ สลิปนี้เคยส่งเข้ามาในระบบ
3. สร้าง Amount field เป็น Short text และ Required field
   โดยมีการ Response validation เพื่อเช็คว่าเป็นตัวเลขจริง Number is the number
4. สร้าง Upload Payslip field เป็น File upload และ Required field
   โดยมีการ allow only specific file type เป็น Image เท่านั้น
5. ปรับแต่งการแสดงผล และกด Publish form ได้เลย

3. ทดลองส่งแบบฟอร์มใน Google Form เพื่อทดสอบการใช้งาน

ลองส่งแบบฟอร์มเข้ามาใน Google Sheet ได้เลย โดยแนะนำให้ส่งข้อมูลไป 2 รูปแบบ เพื่อให้สามารถทำตาม Workshop ได้อย่างสมบูรณ์

1. สลิปที่ถูกต้อง ทั้งจำนวนเงิน และชื่อผู้รับ / เลขบัญชี
2. สลิปที่ไม่ถูกต้อง (อัปโหลดไฟล์ภาพแปลก ๆ เข้าไป)

4. เตรียม Google Sheet เพื่อเก็บหลักฐานการตรวจสอบสลิป

เมื่อส่งแบบฟอร์มแล้ว เราจะตรวจสอบแบบฟอร์มโดยสร้าง Google Sheet ใหม่ เพื่อแสดงผลการกรอกแบบฟอร์ม ด้วยการไปที่

เข้าไปที่ Response → Link to Sheets → Create a new spreadsheet

ตัวอย่าง Google Sheet ที่มีการบันทึกข้อมูลแล้ว โดยสังเกตเห็นว่า Upload Payslip จะเป็น URL ของไฟล์ภาพ

5. เตรียมภาพสลิปใน Google Form ให้สามารถเข้าถึงได้โดยตรง

Workshop นี้จะเปิด URL ภาพสลิปโอนเงินให้สามารถเข้าถึงได้โดยตรง ซึ่งมีข้อเสียคือหากใครมี URL นี้ก็สามารถเข้าไปเห็นข้อมูลสลิปได้เลย

ขั้นตอนนี้จะเป็นการเปิด Public access ให้กับ Folder ที่เก็บ URL ของไฟล์ภาพ เพื่อให้สามารถส่ง URL ไฟล์ภาพนั้นไปตรวจสอบกับ SlipOK ได้ง่าย

เข้าไปที่ Response → View folder

เลือกตั้งค่าการ Share และปรับ access เป็น Anyone with the link ให้เป็น Viewer

6. เตรียมภาพสลิปใน Google Form ให้เป็นไฟล์ภาพ

ขั้นตอนนี้จะเป็นการสร้างไฟล์ภาพ จาก URL ของไฟล์ภาพในช่อง Upload Payslip ผ่านการใช้สูตรที่จะเป็นการเรียกใช้ไฟล์ภาพโดยตรง โดยจะมี URL เป็น https://lh3.googleusercontent.com/d/<file_id>

โดยหลักการคือเราจะไปดึง file_id มาจาก Field Upload Payslip เพื่อเอามาสร้างเป็น URL https://lh3.googleusercontent.com ผ่านการใช้สูตร ARRAYFORMULA()

รายละเอียดเกี่ยวกับสูตร ARRAYFORMULA()

วิธีการทำ

1. สร้าง Column ใหม่ชื่อ Upload Payslip URL
2. ใส่สูตร Google Sheet =ARRAYFORMULA(IF(D2:D<>"", "https://lh3.googleusercontent.com/d/" & REGEXEXTRACT(D2:D, "id=([^&]+)"), ""))
   
   โดย D2 มาจาก Column D (ในที่นี่คือ Column Upload Payslip) แถวที่สองเป็นต้นไป
3. เมื่อลองเอา URL ใน Column Upload Payslip URL ไปเปิดแบบทั่ว ๆ ไป จะเห็นว่าสามารถเข้าถึงไฟล์ภาพได้เลย

7. สมัครใช้งาน SlipOK API

เข้าไปที่ https://slipok.com/ และสมัครใช้งาน SlipOK ผ่าน LINE Applcation โดยเลือกทดลองใช้งานแบบธุรกิจ

1. กดสมัครร้าน
2. เลือกแพคเกจ OK Basic
3. กดสร้างร้านค้าใหม่
   1. กรอกรายละเอียดร้าน
   2. ชื่อบัญชี และเลขที่บัญชีรับเงิน
4. กดสร้างสาขาใหม่ / บริการที่ต้องการ
   1. ตั้งชื่อบริการ
   2. เลือกช่องทางการตรวจสอบเป็น API Key
   3. ก็อปปี้ข้อมูล API และ API Key เก็บไว้
   4. ตั้งค่าระบบการตรวจสอบ
      1. ตั้งค่าส่วนต่างกรณีโอนขาด (โอนขาดได้เท่าไหร่)
      2. ตั้งค่าส่วนต่างกรณีโอนเกิน (โอนเกินได้เท่าไหร่)
   5. ตั้งค่าอื่น ๆ เช่นซ่อนเลขบัญชีผู้โอน / ผู้รับ
5. ก็อปปี้ค่าสำหรับ การสร้าง API ตามตัวอย่างด้านล่าง

โดยขั้นตอนทั้งนี้ เราจะได้รับ Key 2 อย่างเพื่อเข้าใช้งานระบบด้วย Activepieces (ตัวอย่าง)

• API Endpoint: https://api.slipok.com/api/line/apikey/11111
• API Key: SLIPOK12345

รายละเอียดเพิ่มเติม

• เทคนิคการใช้งาน SlipOK เช่นการตรวจสอบแพคเกจ หรือการดูยอดขายย้อนหลัง
• การตั้งค่า Telegrambot สำหรับทำ Notification

8. สร้าง Flow ใน Activepieces

เปิด Flow / Project ใหม่ใน Activepieces

• เข้าสู่ระบบ Activepieces
• ไปที่ Menu Flows และกด New Flow
• กดสร้าง + From scratch
• ตั้งชื่อ Flow เป็น Approve Slip by Activepieces

9. เลือก Trigger เป็น New Row Added ของ Google Sheet

สร้าง Trigger โดยเลือก Google Sheet และเลือก New Row Added เพื่อให้ Activepieces อ่านค่าเมื่อ Google Sheet มีการอัพเดตดังนี้

• กดเลือก Connection เพื่อเลือก Google Sheets Account ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• กดเลือก Spreadsheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (Approve Slip by Activepieces)
• กดเลือก Sheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (Form Responses 1)
• ลองกด Test Result หรือ Load Sample Data เพื่อให้ระบบลองดึงข้อมูลเข้ามาดู ในตัวอย่างนี้เราจะเลือก Result ที่เป็น สลิปปลอมมาก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการทำตาม

10. เลือก Action เป็น Send HTTP Request ของ HTTP

ในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ยากที่สุดก็คือ การเชื่อมต่อ SlipOK API ผ่าน Action ที่ชื่อว่า Send HTTP request ของ HTTP โดยมีการตั้งค่าดังนี้

API คือมาตรฐานการเชื่อมต่อระหว่างระบบเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถสื่อสารกันเข้าใจ

ในกรณีของ SlipOK เพื่อตรวจสอบสลิป เราต้องส่งข้อมูลสลิปของเราด้วย POST request ไปที่ API ของ SlipOK โดยผลลัพธ์ที่ออกมาจะอยู่ในรูปของ JSON

เลือก Method เป็น POST

URL ใส่ API ที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้า

Headers ใส่ x-authorization และ API Key ตามภาพ

Body Type เลือกเป็น JSON

{ 
  "url": "upload_payslip_url_value",
  "log": true,
  "amount": amount_value
}

JSON Body
ให้เอา Template JSON Body นี้ไปใช้ โดย <<PLACEHOLDER>> แต่ละจะต้องใส่ข้อมูลจาก Node ก่อนหน้า

JSON คือการเก็บข้อมูลรูปแบบนึง ที่มักใช้บ่อยเวลาใช้งาน API โดยมีโครงสร้างประกอบด้วย key (หัวข้อข้อมูล) และ value (ข้อมูล) เช่น
{ “key”: “value” }
{ “message”: “ทดสอบข้อความ” }

• url จะใส่เป็นข้อมูลของ Upload Payslip URL
• amount จะใส่เป็นข้อมูลของ Amount
• log (ส่วนที่ให้ SlipOK บันทึกประวัติการตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบสลิปซ้ำ เมื่อตั้งค่าเป็น true แล้ว เราจะไม่สามารถส่งสลิปซ้ำได้ หากไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ให้ใส่ false แทน true)

เลือก No Error on Failure เพื่อให้ระบบทำงานต่อแม้ว่า Response จะ Fail

กด Test Result เพื่อลองใช้งานบริการตรวจสลิป หากไม่สำเร็จให้ลองตรวจสอบขั้นตอนก่อนหน้าอีกรอบ

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ข้อสังเกตคือ หาก Success จะมี key “success” ที่ value เป็น true และ ไม่มี key “message” หาก Fail จะไม่มี key “success” แต่มี key “message”

หาก Success ระบบจะแสดงผลแบบนี้ (ตัวอย่าง JSON format)

{
    "success": true,
    "data": {
      "success": true,
      "message": "✅",
      "rqUID": "783_20191108_v4UIS1K2Mobile",
      "language": "TH",
      "transRef": "010092101507665143",
      "sendingBank": "004",
      "receivingBank": "004",
      "transDate": "20200401",
      "transTime": "10:15:07",
      "sender": {
        "displayName": "นาย ธนาคาร ก",
        "name": "Mr. Thanakarn K",
        "proxy": {
          "type": null,
          "value": null
        },
        "account": {
          "type": "BANKAC",
          "value": "xxx-x-x0209-x"
        }
      },
      "receiver": {
        "displayName": "กสิกร ร",
        "name": "KASIKORN R",
        "proxy": {
          "type": "",
          "value": ""
        },
        "account": {
          "type": "BANKAC",
          "value": "xxx-x-x3109-x"
        }
      },
      "amount": 1,
      "paidLocalAmount": 1,
      "paidLocalCurrency": "764",
      "countryCode": "TH",
      "transFeeAmount": 0,
      "ref1": "",
      "ref2": "",
      "ref3": "",
      "toMerchantId": ""
    }
  }

หาก Fail ระบบจะแสดงผลแบบนี้ (ตัวอย่าง JSON format)

 {
    "code": 1008,
    "message": "QR Code ไม่ใช่ QR สำหรับตรวจสอบการชำระเงิน"
  }

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SlipOK API

• รายละเอียดการใช้งาน API
• รายละเอียดเอกสารการใช้งาน API

11. เลือก Action เป็น Branch / Router เพื่อตรวจสอบผลการตรวจสลิป

ในขั้นตอนนี้เราจะทำการตรวจสอบผลการตรวจสลิปจากขั้นตอนก่อนหน้า

โดยข้อแตกต่างระหว่างสลิปที่ถูกตรวจสอบอย่างถูกต้อง กับสลิปปลอมคือ สลิปปลอมจะมี key ที่ชื่อว่า message และ มี value เป็น ข้อความ Error Message

สร้าง Action เป็น Router แล้วเลือก Execute If (Fail) เป็นการตรวจสอบว่า key “message” มีค่าจริงหรือไม่ (Exist)

ลองกด Test result / Retest ดูจะสังเกตว่าระบบจะตรวจสอบผลลัพธ์ให้ กรณีเป็นจริง Output จะมีคำว่า true และกรณีตรวจข้ามจะเป็น false

12. สร้าง Google Sheet อันใหม่เพื่อเก็บข้อมูลผลลัพธ์

ขั้นตอนนี้เราจะสร้าง Google Sheet อีก Sheet เพื่อเก็บผลลัพธ์พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พนักงานสามารถนำไปทำงานต่อได้ โดยมีวิธีการดังนี้

สร้าง Google Sheet ในไฟล์เดิม โดยตั้งชื่อ Sheet เป็น “result” และเพิ่ม Column ตามนี้

• timestamp
• Expectation
• Amount
• Upload URL
• Verify Payment

13. [Fail] เลือก Action เป็น Insert Row ของ Google Sheet เพื่อบันทึกค่ากรณีเป็นสลิปปลอม

ขั้นตอนนี้เราจะบันทึก Error message จาก SlipOK API ใส่ใน Google Sheet ที่สร้างจากขั้นตอนก่อนหน้า พร้อมข้อมูลอื่น ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• เลือก Action เป็น Insert Row ของ Google Sheet
  • กดเลือก Connection เพื่อเลือก Google Sheets Account ที่ต้องการเชื่อมต่อ
  • กดเลือก Spreadsheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (Approve Slip by Activepieces)
  • กดเลือก Sheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (result)
  • กดเลือก Does the first row contains headers?
  • และในส่วนที่เหลือจะเอาข้อมูลจาก Google Sheet ใน Node อันแรกมาใส่
  • โดย Verify Payment เราจะใส่ Error message จากขั้นตอนที่ 10 มาใส่
• กดทดสอบผลลัพธ์เพื่อลองบันทึกข้อมูล

14. [Success] เลือก Action เป็น Insert Row ของ Google Sheet เพื่อบันทึกค่าเป็น Success

ขั้นตอนนี้เราจะบันทึกข้อมูลใน Google Sheet ที่สร้างจากขั้นตอนก่อนหน้า พร้อมข้อมูลอื่น ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• เลือก Action เป็น Insert Row ของ Google Sheet
  • กดเลือก Connection เพื่อเลือก Google Sheets Account ที่ต้องการเชื่อมต่อ
  • กดเลือก Spreadsheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (Approve Slip by Activepieces)
  • กดเลือก Sheet ที่ใช้เก็บข้อมูล (result)
  • กดเลือก Does the first row contains headers?
  • และในส่วนที่เหลือจะเอาข้อมูลจาก Google Sheet ใน Node อันแรกมาใส่
  • โดย Verify Payment เราจะใส่คำว่า “Success”
• กดทดสอบผลลัพธ์เพื่อลองบันทึกข้อมูล

ไฟล์สำเร็จรูป และแหล่งอ้างอิงอื่น ๆ

ยังไม่มี

แนวทางการต่อยอดเพิ่มเติม และข้อจำกัดใน Project

• ออกแบบระบบให้ไม่ยอมรับสลิปที่เก่าเกิน 2 วันแม้ว่าจะเป็นสลิปที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันเอาสลิปเก่าที่ไม่มีอยู่ในระบบมาส่งตรวจ
• ออกแบบระบบให้ไฟล์สลิปไม่เป็น Public access เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Project

ยังไม่มี

บทความที่เกี่ยวข้อง

April 12, 2025May 1, 2025Activepieces 11

[Workshop] ติดตั้ง Activepieces แบบ Self-host ด้วย railway.com

เรียนรู้แนวทางการ Deploy Activepieces แบบ Self-host ผ่าน railway.com ที่สามารถทำตามได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายเอง

February 26, 2025May 1, 2025Activepieces 9

[Workshop] สร้าง Workflow AI ตอบอีเมลลูกค้าแบบอัตโนมัติด้วย Activepieces ฟรี

เรียนรู้แนวทางการสร้าง Workflow AI ตอบอีเมลลูกค้าแบบอัตโนมัติด้วย Activepieces ฟรี เหมาะสำหรับทีมขายที่ต้องตอบอีเมลลูกค้าจำนวนมาก

• Facebook
• Twitter
• Line

Activepieces AI Automation Low-Code No-Code Workshop

Worakarn Ounhattapradit

พีเตอร์ ผู้ตัดสินใจกระโดดข้ามสายงานจากนักออกแบบ มาสู่โลกแห่งเทคโนโลยี สนใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตคนให้ดีขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม